ค่าตัวกราฟิกลดลงได้ไง?

หมวดหมู่

กราฟิกยุคนี้ค่าตัวถูกลงได้ไงกัน

ทำไมกราฟิกดีไซน์ในยุคนี้ค่าตัวถึงถูกลงเรื่อยๆ ทั้งๆที่งานก็ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถเฉพาะตัว และเวลามากพอสมควร? 🤔 ถ้าเรามองย้อนกลับไปช่วงก่อนหน้านี้ งานกราฟิกถือเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมสูง และมีมูลค่าทางการตลาดที่ดี แต่พอมาในยุคปัจจุบัน อะไรหลายอย่างเปลี่ยนไป แล้วอะไรล่ะที่ทำให้งานกราฟิกกลายเป็นอีกหนึ่งงานที่มักโดนกดราคากันอยู่เรื่อย ๆ?

การเติบโตของเทคโนโลยี

เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โปรแกรมออกแบบต่าง ๆ มีความสามารถสูงขึ้นมาก หลายคนที่อาจไม่เคยมีพื้นฐานการออกแบบก็สามารถเรียนรู้การใช้งานโปรแกรมได้ด้วยตัวเอง ทำให้งานที่เคยต้องพึ่งพานักออกแบบมืออาชีพกลายเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ง่ายขึ้น โปรแกรมฟรีอย่าง Canva เข้ามาเป็นตัวเลือกให้คนทั่วไปได้สร้างสรรค์งานออกแบบที่ดูโปรแบบมืออาชีพได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องจ้างนักออกแบบเฉพาะทางมากนัก 💻

การที่มีโปรแกรมหรือแพลตฟอร์มเหล่านี้ทำให้ใคร ๆ ก็รู้สึกว่า งานกราฟิกไม่ใช่สิ่งที่ยากเย็นอีกต่อไป แถมยังทำเองได้ฟรี ๆ หรือจ่ายเพียงน้อยนิดเท่านั้น ส่งผลให้ความต้องการจ้างนักออกแบบมืออาชีพลดลง ซึ่งกดดันให้ตลาดต้องปรับราคาลงตามไปด้วย เพราะหลายบริษัทหรือบุคคลไม่ยินดีที่จะจ่ายในราคาที่เคยเป็นอยู่

การแข่งขันที่รุนแรงในตลาด

ตลาดงานกราฟิกในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก นักออกแบบหน้าใหม่ผุดขึ้นมาทุกวัน ด้วยความที่ใคร ๆ ก็สามารถเรียนรู้และฝึกฝนทักษะด้านนี้ได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ปริมาณของนักออกแบบที่ออกมาหางานเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 🔥 นั่นแปลว่าผู้ว่าจ้างมีทางเลือกเยอะขึ้น เลือกนักออกแบบที่รับงานในราคาถูกกว่าได้ ซึ่งก็ไม่แปลกที่ค่าตัวของนักออกแบบหลายคนจะต้องถูกลดลงเพราะตลาดที่แออัด

นอกจากนี้ยังมีตลาดงานฟรีแลนซ์ที่เปิดกว้างขึ้น โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มต่างๆมีทั้งกลุ่มตลาดสังคมที่พอใจกับค่าตัวเพียงเล็กน้อย สามารถเข้ามารับงานได้ ทำให้เกิดการแข่งตัดราคากันเองเพื่อให้ได้งาน ซึ่งส่วนมากนักออกแบบในประเทศที่ค่าครองชีพต่ำจะเสนอราคาที่ต่ำกว่ามาตรฐานทั่วไป ส่งผลกระทบต่อนักออกแบบในประเทศที่มีค่าครองชีพสูง

มาตรฐานที่ไม่ชัดเจน

ปัจจัยที่คนไม่ชอบมากที่สุด คือการมองว่าการทำกราฟิกเป็นเรื่องง่ายๆ หนึ่งที่ส่งผลให้งานกราฟิกถูกกดราคาคือเรื่องของมาตรฐานการทำงานที่ไม่ชัดเจน หลายคนคิดว่า “งานออกแบบแค่ทำให้ดูสวย” แต่ในความเป็นจริง งานออกแบบต้องใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์ การวางแผน และความเข้าใจในแบรนด์ แต่บ่อยครั้งที่ลูกค้าไม่เข้าใจคุณค่าของงานกราฟิกเหล่านี้ และมองว่าแค่ใช้โปรแกรมดีไซน์อะไรก็ทำได้ ไม่ต้องใช้ทักษะมากมาย 🌐

เมื่อความเข้าใจในคุณค่าของงานกราฟิกไม่ตรงกัน ก็ยิ่งทำให้ลูกค้าไม่พร้อมที่จะจ่ายในราคาที่เหมาะสม หลายครั้งที่ลูกค้าคิดว่า “ลดราคานิดหน่อยก็ไม่เห็นเป็นอะไร” แต่สำหรับนักออกแบบ การลดราคาค่าจ้างนั้นหมายถึงการลดคุณค่าและต้นทุนเวลาที่นักออกแบบต้องเสียไปกับการสร้างสรรค์ผลงาน

แพลตฟอร์มและความรวดเร็วในการทำงาน

การที่ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มต่าง ๆ มาช่วยเสริมให้การจ้างงานกราฟิกทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เช่น การใช้เทมเพลตสำเร็จรูป หรือการจ้างงานผ่านแพลตฟอร์มที่มีระบบ AI เข้ามาช่วย ทำให้งานกราฟิกที่เคยใช้เวลาและต้องพึ่งพามืออาชีพ กลายเป็นสิ่งที่ “เร็ว ง่าย และถูก” มากขึ้น คนสามารถหาซื้อเทมเพลตหรือออกแบบผ่าน AI ได้ในราคาที่ถูกกว่าการจ้างนักออกแบบจริง ๆ 🎨

เทมเพลตสำเร็จรูปที่พร้อมใช้เพียงไม่กี่คลิกก็สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ซึ่งทำให้หลายคนคิดว่า ไม่จำเป็นต้องจ้างงานกราฟิกแล้วก็ได้ เพราะตัวเลือกที่มีอยู่ก็เพียงพอแล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่ผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมดก็ตาม

ความไม่มั่นคงในการจ้างงาน

ปัจจัยทางเศรษฐกิจก็ส่งผลกระทบเช่นกัน หลายบริษัทต้องลดค่าใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะงานที่ไม่ใช่ Core Business งานกราฟิกมักจะถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถลดต้นทุนได้ บริษัทหลายแห่งเลือกที่จะจ้างนักออกแบบฟรีแลนซ์แทนการมีทีมงานประจำเพื่อลดต้นทุน 📉 นักออกแบบฟรีแลนซ์จึงต้องเผชิญกับปัญหาการกดราคา เพราะลูกค้าต้องการประหยัดงบประมาณ แต่ในขณะเดียวกันนักออกแบบก็ต้องการงานเพื่อความอยู่รอด ทำให้หลายคนยอมรับค่าจ้างที่ต่ำกว่ามาตรฐาน

นักออกแบบจะเอาตัวรอดได้ยังไง?

เมื่อค่าตัวลดลง แต่ค่าครองชีพไม่ลด นักออกแบบก็ต้องหาวิธีเอาตัวรอด การสร้างความแตกต่างและคุณค่าในงานออกแบบจึงเป็นสิ่งสำคัญ บางคนเลือกที่จะปรับตัวด้วยการพัฒนาทักษะด้านอื่นๆเสริม เช่น การทำ Motion Graphic, Developer หรือการออกแบบสื่อโฆษณาที่เน้นผลลัพธ์มากกว่าความสวยงามเพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้ การสร้างแบรนด์ตัวเองให้เป็นที่รู้จักในฐานะนักออกแบบที่มีเอกลักษณ์ และมีคุณภาพสูงยังเป็นทางออกหนึ่งที่ทำให้นักออกแบบสามารถตั้งราคางานได้ตามคุณค่าที่สมควร อีกทั้งยังเป็นการสร้างฐานลูกค้าที่พร้อมจะจ่ายในราคาที่เหมาะสม 📈

สุดท้าย การเรียนรู้ที่จะต่อรองและเข้าใจตลาดก็เป็นสิ่งสำคัญ การศึกษาตลาด รู้จักประเมินราคาตามทักษะ และการเจรจาต่อรองกับลูกค้าเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกว่างานที่ทำมีคุณค่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย

สรุป

งานกราฟิกในยุคนี้ค่าตัวถูกลงเพราะหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้งานง่ายขึ้น การแข่งขันที่สูงขึ้น หรือความไม่เข้าใจในคุณค่าของงาน แต่สุดท้ายแล้ว นักออกแบบที่สามารถปรับตัว สร้างคุณค่าในงาน และทำให้ลูกค้ามองเห็นคุณค่าของงานกราฟิกที่แท้จริง ก็ยังคงสามารถยืนหยัดในตลาดได้อย่างมั่นคง

เรายังมีเนื้อหาที่ใกล้เคียงคือ


เป็นกราฟิกได้ฟรีงานไรอีก?
อ่านเลย : https://arkiedesign.com/blog/graphic-another-job-001/

คอมเม้นท์

One response to “ค่าตัวกราฟิกลดลงได้ไง?”

  1. […] ←ก่อนหน้า : ไว้พระจันทร์ที หมี่ซั่วต้องมา ถัดไป : อะไรที่ทำให้ค่าตัวกราฟิกอย่…→ […]

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *